ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น อำเภอปะคำ

สถานที่แหล่งข้อมูล
ชุมชนบ้านหนองต้อ หมู่ 9, ชุมชนบ้านหนองต้พัฒนา หมู่ 18 ตำบลหูทำนบ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์
ความเป็นมาของชุมชน

   ชุมชนบ้านหนองต้อและชุมชนบ้านหนองต้อพัฒนา แต่เดิมเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ที่รวมกันเป็นหนึ่งชุมชน ในอดีตจากประวัติความเป็นมากล่าวไว้ว่า การก่อตั้งหมู่บ้านหรือชุมชนนี้เกิดจากการอพยพเคลื่อนย้ายของผู้คนในอดีตเพื่อมาตั้งรกรากอยู่บริเวณปัจจุบัน คนเฒ่าคนแก่เล่าว่าได้อพยพมาจากหลายพื้นที่ เช่น จากประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) จากจังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น ซึ่งทำให้เกิดวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย


   ผู้สูงอายุของชุมชนกล่าวว่า การมาปักหลักฐานที่ชุมชนแห่งนี้เนื่องจากพบแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นหนองน้ำที่มีขนาดใหญ่เหมาะแก่การดำรงชีวิต จึงได้ปักหลักฐานสร้างชุมชนยังบริเวณหนองน้ำแห่งนี้ การมาพบแหล่งน้ำในครั้งนั้นจะปรากฏเห็นตอไม้ขนาดใหญ่ในหนองน้ำ จึงเป็นที่มาของ “หนองตอ” แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น “หนองต้อ”ในปัจจุบัน

      จากเดิมที่เคยเป็นชุมชนหนองตอ หรือ หนองต้อเพียงชุมชนเดียวปัจจุบันได้มีการขยาย การปกครองออกเป็น 2 ชุมชน คือชุมชนหนองต้อ หมู่ที่ 9 และชุมชนหนองต้อพัฒนา หมู่ที่ 18 แต่การไปมาหาสู่หรือการทำกิจกรรมทางประเพณีต่าง ๆ จะกระทำร่วมกันเหมือนดังเช่นในอดีต
      ในชุมชนหนองต้อและชุมชนหนองต้อพัฒนา   มีการขุดพบเสาหินโบราณหรือศิลาแลงโบราณบริเวณทุ่งนาของชาวบ้าน  ซึ่งการขุดพบในครั้งนั้นปรากฏหลักฐานเสาหินจำนวนมาก  สันนิษฐานว่าบริเวณดังกล่าวในอดีตอาจเป็นไปได้ว่าเสาหินเหล่านี้ได้ถูกนำมาสร้างปราสาทหินของคนโบราณ  แต่เนื่องด้วยชาวบ้านยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของศิลปะเก่าแก่หรือโบราณวัตถุจึงทำให้เสาหินเหล่านี้ถูกโจรกรรมไปเป็นจำนวนมาก  เหลือเพียงไม่กี่ชิ้นที่ยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน  ซึ่งเสาหินเหล่านี้จึงต้องมีการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ด้วยวิธีการนำมามอบหรือถวายไว้ที่วัด  เพื่อให้วัดเป็นผู้ดูแลตามวิธีการของทางวัดจัดทำขึ้น
 


สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ

     ชุมชนหนองต้อและชุมชนหนองต้อพัฒนา  จะมีบริเวณพื้นที่หรืออาณาเขตที่ติดต่อกัน โดยมีถนนสายหลักที่เป็นทางเชื่อมในหมู่บ้านเพื่อเดินทางไปมาหาสู่กันและการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติร่วมกันคือ หนองน้ำขนาดใหญ่ที่เรียกว่า หนองต้อ ซึ่งจะใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการดำรงชีวิตของชุมชนทั้งสอง  โดยแหล่งน้ำนี้จะประกอบไปด้วย สัตว์น้ำ พืชน้ำ ต้นไม้ต่าง ๆ นานาพันธุ์   โดยเฉพาะต้นกก และต้นไหล ซึ่งเป็นพืชไม้ที่มีความสำคัญต่อการประกอบอาชีพรองจากการทำนานั่นก็คือ  การใช้ต้นกกและต้นไหลประกอบการทอเสื่อซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าสามารถสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง  แต่เนื่องด้วยปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเนื่องจากการที่ต้องประกอบอาชีพหลักหรือการทำงานด้านอื่น ๆ รวมทั้งสภาวะทางสุขภาพที่ทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับการสืบทอดเท่าที่ควรจึงทำให้อาชีพการทอเสื่อกกเริ่มลดน้อยถอยลงไปมากเมื่อเทียบกับในอดีต


วิถีชีวิตชุมชน

     ชุมชนหนองต้อและชุมชนหนองต้อพัฒนา มีการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีอาชีพรองอื่น ๆ เช่น การเลี้ยงสัตว์ การทำธุรกิจในครัวเรือน การทอเสื่อ และอาชีพอื่น ๆ ซึ่งการดำรงชีวิตของชุมชนจะเกิดจากการประกอบอาชีพเป็นหลัก กล่าวคือ ชาวบ้านนิยมประกอบอาชีพการทำเกษตรกรรม การทำนา เมื่อมีการทำนาหรือการปลูกพืชก็จะให้ความสำคัญกับการทำการเกษตร กิจกรรมต่าง ๆ ตามวิถีชีวิตจะเกิดจากการประกอบอาชีพหลัก เริ่มตั้งแต่การวางแผน การทำนาปี การทำนาปรัง การเลี้ยงสัตว์ไว้ใช้งาน หรือเอาไว้ขาย การปลูกผัก การประกอบอาหาร  และการดำรงชีวิตต่าง ๆ ของชาวบ้าน ล้วนแต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำเกษตรกรรม



ประเพณีและความเชื่อ

    ชุมชนหนองตอและชุมชนหนองต้อพัฒนาจะมีวัฒนธรรมตามประเพณีและความเชื่อที่เกิดจากการนับถือพระพุทธศาสนา ซึ่งในชุมชนจะประกอบพิธีกรรมตามประเพณีทางศาสนาที่วัดประจำหมู่บ้านคือวัดหนองต้อ ซึ่งวัดนี้อยู่ไม่ไกลจากชุมชน ชาวบ้านจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดอยู่เสมอในทุกโอกาสทั้งวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีพระใบฎีกาสำเรียง กิตฺติคุโน เจ้าอาวาสวัดหนองต้อ ซึ่งท่านเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามาทำกิจกรรมในทุกโอกาส

   นอกจากประเพณีวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนาแล้ว ชาวบ้านยังมีความเชื่อในเรื่องของพิธีกรรมในอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีภายในชุมชนในหลายพิธีกรรม เช่น การไหว้ศาลตาปู่ ซึ่งเป็นศาลประจำหมู่บ้านตั้งอยู่บนพื้นดินบริเวณใกล้กับหนองน้ำประจำหมู่บ้าน การประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ในชุมชน เป็นต้น


ศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น

   ศิลปะและวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นของชุมชนหนองต้อและชุมชนหนองต้อพัฒนา ยังคงปรากฏร่องรอยของความเข้มแข็งทางวัฒนธรรมที่มาจากการอพยพเพื่อมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณหนองต้อนี้ การอพยพมาในอดีตในครั้งนั้นจะมีผู้คนมาจากหลากหลายท้องถิ่น เช่น อพยพมาจากจังหวัดอื่น อพยพมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น ทำให้เกิดวัฒนธรรมที่ถูกหล่อหลอมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นความเข้มแข็งด้านวัฒนธรรมของชุมชน

     ศิลปะท้องถิ่นของชุมชนบ้านหนองต้อมีหลายแขนงแตกต่างกันไปตามความนิยมและตามกระบวนการของสืบทอดวัฒนธรรม ซึ่งแต่ละแขนงยังคงมีร่องรอยปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน ถึงแม้ศิลปะและวัฒนธรรมเหล่านี้จะถูกลืมเลือนไปบ้างแต่ยังคงมีผู้สูงอายุที่ยังคงสามารถแสดงให้เห็นว่าศิลปะและวัฒนธรรมเหล่านี้ เคยได้รับความนิยมจากผู้คนในท้องถิ่นเมื่อครั้งอดีต
   ในปัจจุบันศิลปะและวัฒนธรรมที่ยังคงมีปรากฏเกิดขึ้นเพื่อให้ลูกหลานได้รับรู้และชื่นชมอาจจะไม่มากเท่าใดนักแต่ก็สามารถเป็นที่ภาคภูมิใจของผู้คนในชุมชน เช่น การใช้ภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร การประกอบอาหารพื้นบ้าน การทำขนมพื้นบ้าน การทอเสื่อ การบรรเลงดนตรีพื้นบ้าน เป็นต้น